ชาดอกชบา (Hibiscus Tea) คือเครื่องดื่มสมุนไพรที่ได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยสีแดงสด รสเปรี้ยวอมหวาน และกลิ่นหอมชวนดื่ม นอกจากความสดชื่นแล้ว ชาดอกชบายังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายด้าน แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าชาดอกชบาควรดื่มตอนไหนเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจคุณประโยชน์ของชาดอกชบา พร้อมคำแนะนำในการดื่มให้เหมาะสมที่สุด
สรรพคุณของชาดอกชบา
- ลดความดันโลหิต
งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า สารโพลีฟีนอลในดอกชบาช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง - ลดไขมันและคอเลสเตอรอล
ดอกชบาช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL) และช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ - ช่วยขับปัสสาวะและล้างพิษ
ชาดอกชบามีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะตามธรรมชาติ ช่วยให้ร่างกายขจัดของเสียออกได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการล้างสารพิษสะสมในร่างกาย - บรรเทาอาการบวมน้ำ
ด้วยฤทธิ์ขับปัสสาวะ จึงช่วยลดอาการตัวบวม หน้าบวมในช่วงที่ร่างกายกักเก็บน้ำ - ควบคุมน้ำตาลในเลือด
มีงานวิจัยเบื้องต้นที่ชี้ว่า ดอกชบาอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ควรดื่มอย่างระมัดระวังและไม่เติมน้ำตาลเพิ่ม - ต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย
อุดมด้วยวิตามินซีและแอนโทไซยานิน ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ทำให้ผิวพรรณสดใสและลดการเสื่อมของร่างกาย - ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น
ดอกชบามีคุณสมบัติที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด ซึ่งส่งผลดีต่อคุณภาพการนอน
ชาดอกชบาควรดื่มตอนไหน
- เช้า (ก่อนหรือหลังอาหาร)
ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย และช่วยลดความดันหลังตื่นนอน - ระหว่างวัน (ช่วงบ่าย)
เหมาะกับการดื่มเพื่อความสดชื่น ลดความเครียด และช่วยล้างของเสียออกจากร่างกาย - ก่อนนอน
หากต้องการดื่มเพื่อผ่อนคลายและช่วยให้นอนหลับ อาจดื่มก่อนนอนประมาณ 30-60 นาที โดยไม่เติมน้ำตาล
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรดื่มในขณะท้องว่างมากเกินไป เนื่องจากมีฤทธิ์เปรี้ยว อาจระคายเคืองกระเพาะ
- ผู้ที่มีความดันต่ำ ควรหลีกเลี่ยงหรือดื่มในปริมาณน้อย
- ผู้ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มอย่างสม่ำเสมอ
สรุป
ชาดอกชบาเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์มากมาย ทั้งด้านการลดความดัน ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เหมาะกับการดื่มเป็นประจำ แต่ก็ควรเลือกช่วงเวลาให้เหมาะสม และไม่ควรดื่มมากเกินไปในแต่ละวัน เพื่อให้ได้ผลดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง
แหล่งอ้างอิงข้อมูล:
การลดความดันโลหิต
- A systematic review and meta-analysis (2022) รายงานว่าชาดอกชบาช่วยลดความดันซิสโตลิกเฉลี่ย −7.9% และไดแอสโตลิก −6.8%
URL: https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC9086798/ - รายงาน PubMed/Oxford (2021) ระบุว่า hibiscus ลด systolic BP ลง −7.10 mmHg แล้วมีผลต่อ LDL ด้วย
URL: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/34927694/
ต้านอนุมูลอิสระ
- งานวิจัยใน vitro จาก ScienceDirect พบว่าดอกชบาอุดมด้วย anthocyanin และ polyphenol
URL: https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S027869151830053X
ปรับไขมัน–น้ำตาล–ความดันโดยรวม
- รีวิวใน ScienceDirect (2025) ยืนยันว่าสารในดอกชบาช่วยปรับ lipid และ glycemic profile ดีขึ้น
URL: https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S096522992500010X
งานวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
- รายงานใน PMC (2022) หัวข้อ Hibiscus sabdariffa anthocyanins-rich extract
URL: https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC8944722/
รายงาน Cochrane / Wikipedia
- สรุปใน Wikipedia อ้างอิง meta‑analysis ปี 2015 (Journal of Hypertension)
URL: https://en.wikipedia.org/wiki/Roselle_(plant)