...

ต้นขลู่

พืชพุ่มชายฝั่งกลิ่มหอมที่ปรากฏทั้งในครัวและคัมภีร์ยาพื้นบ้านอุษาคเนย์

ต้นขลู่

ชื่อวิทยาศาสตร์และจำแนกชั้น

  • ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pluchea indica (L.) Less.
  • สกุล / วงศ์ : Pluchea – Asteraceae (Compositeae)
  • ชื่อสามัญ : Indian camphorweed, Indian fleabane
  • ชื่อท้องถิ่น : ขลู่ (ไทย), beluntas/kemunṭas (ชวา) ฯลฯ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

  • ไม้พุ่มอายุหลายปี สูง 1–3 ม. ใบออกเรียงสลับ รูปไข่กลับถึงรูปรี ปลายสอบ โคนสอบ ขอบจักฟันเลื่อยหยาบ เนื้อใบหนา กลิ่นหอมเมื่อนวด
  • ดอกเป็นช่อกระจุกแน่น สีชมพู-ม่วงอ่อน ไม่มีกลีบดอกวงนอก (ray) ผลแห้งมีพู่ช่วยกระจายด้วยลม
  • ระบบรากแข็งแรง ทนเค็ม สามารถขึ้นในดินเลนหรือดินทรายริมทะเล

ถิ่นกำเนิดและการกระจาย

กระจายจากอินเดีย จีนตอนใต้ ผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึงออสเตรเลียตอนเหนือ พบมากบริเวณชายเลน คันนาเลี้ยงกุ้ง และพื้นที่ดินเค็มริมฝั่งทะเล — ต้นขลู่จึงถูกยกเป็น “รั้วเขียวกันเกลือ” ของชุมชนชายฝั่งหลายแห่ง

สารสำคัญทางเคมี

  • กลุ่มกรดคลอโรเจนิก-คาเฟออยล์ควินิก (caffeoyl- & chlorogenic acids) – ให้ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง
  • เทอร์พีน & เซสควิเทอร์พีน – β-Selinene, Silphinene ฯลฯ ใน “น้ำมันหอมระเหย” จากใบ/เปลือกกิ่ง ให้กลิ่นเฉพาะและฤทธิ์ต้านอักเสบ ต้านจุลชีพ

สรรพคุณพื้นบ้าน

  • ใบต้มดื่มช่วย ขับปัสสาวะ-ลดบวมน้ำ
  • ใช้เป็น “ชา-ล้างไขมัน” ช่วยลดไขมันในเลือด
  • พอกใบสดแก้ปวดข้อ ฟกช้ำ แก้คัน
  • น้ำต้มรากใช้บรรเทาไข้-ปวดท้อง ถ่ายพยาธิ

งานวิจัยสมัยใหม่เด่น (อัปเดตถึง ปลาย 2024)

คุณสมบัติผลการศึกษาอ้างอิง
ลดไขมัน-ป้องกันไขมันพอกตับ (NAFLD)สารสกัดใบ 50 % เอทานอล (200 มก./กก.) ลดไตรกลีเซอไรด์-LDL และลดไขมันสะสมในตับหนูที่กินอาหารไขมัน-ฟรักโตสสูง(PMC)
ต้านมะเร็งต่อมลูกหมาก (BPH model)สกัดใบมาตรฐานยับยั้ง TGF-β-WPMY-1 โดยหยุดวัฏจักรเซลล์ที่ G0/G1 และลด p-SMAD2/3, p-ERK1/2(PMC)
น้ำมันหอมระเหยต้านอักเสบ-จุลชีพ-เซลล์มะเร็งIC₅₀ ต้านเซลล์ K562-HeLa-HepG2-MCF-7 เพียง 2.9–7.3 µg/mL พร้อมยับยั้ง NO ใน RAW-264.7(PubMed)
ฤทธิ์ต้านเบาหวาน-เพิ่มใช้น้ำตาลหลายงานยืนยันการกระตุ้นการใช้กลูโคสในตับและกล้ามเนื้อ และการปกป้องเซลล์β-ตับอ่อน(PMC)

สรุป ขลู่แสดงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านอักเสบ ลดไขมัน ต้านเบาหวาน และอาจต้านมะเร็งผ่านหลายกลไกสมัยใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจในงานวิจัย pre-clinical และ in vitro

รูปแบบการใช้ & แนวทางบริโภคโดยทั่วไป

รูปแบบสัดส่วนดิบ*วิธีใช้หมายเหตุ
น้ำต้มใบใบสด/แห้ง 3–5 กรัม : น้ำ 250 มล. ต้ม 5–10 นาทีดื่มอุ่นวันละ 1–2 ถ้วยหลังอาหารกลิ่นหอม-รสเฝื่อนเล็กน้อย
ชาขลู่ซองชาสำเร็จ 1.5 กรัม ชงน้ำร้อน 200 มล. 3–5 นาทีดื่มได้ 1–3 ซอง/วันนิยมผสมสมุนไพรอื่นเพื่อลดกลิ่นสาบ
ใบสดยำ/ลวกจิ้มเป็นผัก “อูลาม”เพิ่มกากใย-สารต้านอนุมูลอิสระหลีกเลี่ยงการเก็บใบจากพื้นที่ปนเปื้อนฝุ่น/โลหะหนัก

* ปริมาณอ้างอิงจากตำรับพื้นบ้าน ไม่มีขนาดมาตรฐานสากล

การปลูกและดูแล

  • แสง & ดิน : ชอบแสงเต็มวัน ทนดินเค็ม-ดินทราย ชื้นแฉะแต่ระบายน้ำได้
  • ขยายพันธุ์ : ปักชำกิ่งแก่หรือเพาะเมล็ด (ออกดอกตลอดปี)
  • การตัดแต่ง : ตัดแต่งทรงพุ่มทุก 2–3 เดือน กระตุ้นใบอ่อน พร้อมลดการแตกยอดไม่เป็นระเบียบ
  • ศัตรูพืช : ค่อนข้างทนทาน แต่ใบอ่อนอาจถูกเพลี้ยอ่อน-หนอนผีเสื้อกัดกิน

ข้อควรระวัง

  • รายงานพิษเฉียบพลันต่ำ แต่ควรหลีกเลี่ยงการดื่ม濃เกินควร (มากกว่า 3–4 ถ้วย/วันติดต่อกันนาน >6 สัปดาห์) เพื่อป้องกันภาระต่อไต-ตับ
  • ผู้มีโรคประจำตัว, สตรีมีครรภ์-ให้นมบุตร และผู้ใช้ยาลดน้ำตาล/ไขมัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้สกัดเข้มข้นหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • สมุนไพรนี้ไม่ใช่ยารักษาโรค ข้อมูลนี้เพื่อการศึกษา-ทั่วไปเท่านั้น

สรุป

ต้นขลู่เป็นพืชชายฝั่งสารพัดประโยชน์ที่คนไทยรู้จักในบทบาท “เครื่องเทศ-ชา-ยา” มาช้านาน งานวิจัยยุคใหม่สนับสนุนสรรพคุณลดไขมัน-น้ำตาล / ต้านอักเสบ / ต้านมะเร็ง พร้อมเปิดทางสู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพรูปแบบต่าง ๆ ได้อีกมาก แต่การใช้อย่างรู้ขนาดและตระหนักข้อจำกัดยังคงสำคัญเสมอ

เอกสารอ้างอิงสำคัญ

(เรียงตามปีเผยแพร่)

  1. Chan EWC et al. Pharm Sci Asia 49(1): 77-85 (2022). (ResearchGate)
  2. Pluchea indica leaf extract alleviates dyslipidemia… PNFS 27(4):384-400 (2022). (PMC)
  3. Vu M T et al. Essential oils from P. indicaChem Biodivers 21(12):e202401785 (2024). (PubMed)
  4. Standardized P. indica extract antiproliferative study – PMC (2025). (PMC)

Leave a Comment